โฆษก ธทป. เผย ไตรมาส 4 การท่องเที่ยวและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ จะช่วยดันให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวมากขึ้น
วันนี้ (20 พ.ย. 66) นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึง สถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศไทย ว่าขณะนี้เริ่มมีการฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ GDP ขยับตัวขึ้น ร้อยละ 1.5 โตจากไตรมาสก่อน 0.8 % ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.5 % ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างเหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
โดยในช่วงไตรมาส 4 ที่จะถึงนี้ แรงขับเคลื่อนที่จะทำให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวได้มากขึ้นคือการท่องเที่ยว เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศใหม่ๆ เริ่มทะยอยเข้ามามากขึ้น สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปีหน้าที่เริ่มขยับตัวมากขึ้น สังเกตได้จากตลาดแรงงานเริ่มฟื้นตัว เกิดการจ้างงานมากขึ้นและมีแรงงานเข้าสู่ระบบประกันสังคมมากขึ้น ขณะเดียวกันการส่งออกประเภทวัสดุอิเล็กทรอนิกส์ก็เป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น ตามสถานการณ์ความต้องการในตลาดโลกที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวมากขึ้นในไตรมาสถัดไป
ส่วนปัญหาหนี้ในครัวเรือนที่ในช่วงโควิด-19 มีจำนวนเพิ่มขึ้นเนื่องจากประชาชนไม่มีรายได้แต่รายจ่ายยังมีเท่าเดิม ทำให้ต้องมีการกู้หนี้ยืมสินเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวแล้วประชาชนเริ่มกลับมามีรายได้ มีศักยภาพในการชำระหนี้ ส่งผลให้สถานการณ์หนี้ครัวเรือนโตในอัตราที่น้อยลง โดย ธปท. จะเริ่มดำเนินมาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567เป็นต้นไป ซึ่งจะเน้นให้ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงิน ที่จะให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้ต้องมีการให้ข้อมูลกับลูกหนี้อย่างครบถ้วน และจัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ไว้รองรับกรณีลูกหนี้มีปัญหาในการชำระหนี้ในอนาคต
ทั้งนี้ นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย ยังได้เตือนประชาชนให้ระมัดระวังปัญหาภัยทางการเงินและขอให้ประชาชนบริหารจัดการหนี้อย่างเหมาะสมไม่กู้เงินเกินความจำเป็น