จังหวัดเชียงใหม่ เร่งแก้ไขปัญหาผลผลิตการเกษตร หลังพบพืชผลทางการเกษตรหลายชนิดมีแนวโน้มให้ผลผลิตลดลงและมีราคาตกต่ำ

วันนี้ (6 ธ.ค. 65) ที่ ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นางกนกวรรณ พรหมตัน หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ และ นางศศิธร ริ้วทอง หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าว ในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ ถึงสถานการณ์พืชเศรษฐกิจที่สำคัญในฤดูการผลิต ปี 2565/66 ของจังหวัดเชียงใหม่

โดย นางกนกวรรณ พรหมตัน หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ สถานการณ์พืชเศรษฐกิจที่สำคัญในฤดูการผลิต ปี 2565/66 ของจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ ส้มเขียวหวาน สตรอว์เบอร์รี กระเทียม หอมแดง และหอมหัวใหญ่ โดยเฉพาะกระเทียม หอมแดง และหอมหัวใหญ่ ที่มีแนวโน้มให้ผลผลิตลดลงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาวะภูมิอากาศที่หนาวเย็นช้า สลับกับมีฝนตก ประกอบกับเกษตรกรได้หันมาปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชหลังนาชนิดอื่น ๆ แทน โดยกระเทียม จะมีผลผลิตลดลงร้อยละ 26.9 หอมแดง จะมีผลผลิตลดลงร้อยละ 36.9 และหอมหัวใหญ่ จะมีผลผลิตลดลงร้อยละ 8.8 ส่วนผลผลิตด้านการเกษตรอื่นๆ เช่น ส้มเขียวหวาน พบว่า จะเริ่มเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนตุลาคม 2565 ถึง มีนาคม 2566 จะออกสู่ตลาดมากสุดในช่วงเดือนธันวาคม 2565 ถึง ต้นเดือนมกราคม 2566 ซึ่งจะมีปริมาณออกสู่ตลาดประมาณ 144,406 ตัน ส่วนสตรอว์เบอร์รี จะให้ผลผลิตมากที่สุดในช่วงเดือนธันวาคม 2565 ถึงเมษายน 2566 โดยจะให้ผลผลิตประมาณ 19,049 ตัน

ด้าน นางศศิธร ริ้วทอง หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะผักกาดขาว และกะหล่ำปลี ในพื้นที่ตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และส้มเขียวหวานพันธุ์สายน้ำผึ้ง ในพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ขณะนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ได้ประสานกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ให้ดำเนินการช่วยเชื่อมโยงและนำผู้ประกอบการจากนอกพื้นที่เข้ามาช่วยซื้อผลผลิต โดยมีการรับซื้อผลผลิตผักกาดขาวและกะหล่ำปลีของเกษตรกรในราคากิโลกรัมละ 5 บาท วันละ 20 ตัน ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน

ที่ผ่านมา ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ทั้งยังได้ทำ MOU กับกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่อำเภออมก๋อย เพื่อรับซื้อกะหล่ำปลี ปริมาณ 300 ตัน ในราคากิโลกรัมละ 4.50-5.00 บาท พร้อมประชาสัมพันธ์หน่วยงานในจังหวัดช่วยรับซื้อผลผลิตในราคา ถุงละ 70 บาท 10 กิโลกรัม

ในส่วนของส้มเขียวหวานพันธุ์สายน้ำผึ้ง ได้มีการรับซื้อส้มคละเกรด และตกเกรดจากเกษตรกร ในราคากิโลกรัมละ 23 บาท โดยเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 100 ตัน ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก ซึ่งได้รับซื้อตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2565 เป็นต้นมา เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในกรณีเร่งด่วน

*************************