คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปี 2567 น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย”
.
วันนี้ (18 ส.ค. 67) ที่ ห้องเอกภพวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะ และถวายราชสดุดี เบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช เนื่องในวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปี 2567
.
โดยทางคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดพิธีดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 4 ในฐานะที่พระองค์ถูกยกให้เป็น “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” ผู้ทรงกำหนดเวลามาตรฐานขึ้นในประเทศไทย ก่อนที่นักดาราศาสตร์ในยุโรปจะกำหนดให้เส้นแวงที่ผ่านเมืองกรีนิซเป็นเส้นศูนย์องศา เพื่อเป็นมาตรฐานของการเทียบเวลาทั่วโลก ทั้งยังทรงคำนวณไว้ว่า วันอังคารเดือน 10 ขึ้น 1 ค่ำ ปีมะโรง จุลศักราช 1230 ซึ่งตรงกับวันที่ 18 สิงหาคม พุทธศักราช 2411 จะเกิดสุริยุปราคามืดหมดดวง เห็นได้ที่บ้านหว้ากอ ตำบลคลองวาฬ แขวงเมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยอาศัยหลักวิชาดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์ขั้นสูง ที่ทรงศึกษาด้วยพระองค์เอง โดยใช้ระบบเวลามาตรฐานของประเทศที่สถาปนาขึ้น
.
โอกาสนี้ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฐปน ชื่นบาล คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ร่วมกันเปิด "งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปี 2567" ซึ่งคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “ วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต สิ่งแวดล้อมและสังคม BCG” หัวข้อย่อยๆ "เรียน-เล่น-งาน-อาชีพ ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิชาการและงานวิจัย อันเกิดจากแนวคิดและการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปสู่การนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนและประชาชนทั่วไป สนใจในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปลูกเจตคติและลักษณะนิสัยที่ดีงามตามแนววิทยาศาสตร์แก่เยาวชน ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต โดยภายในงาน จะเน้นกิจกรรมที่ให้เยาวชนได้แสดงออกถึงความรู้ความสามารถ ตลอดจนทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์