เชียงใหม่ ประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือนเมษายน 2567 ผู้ว่าฯ ย้ำ หน่วยงานที่ได้รับงบกลางสนับสนุนจากรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาไฟป่าฯ ให้ใช้งบประมาณอย่างคุมค่าและโปร่งใส่ ขณะที่งานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ 2567 มียอดเงินสะพัดในจังหวัดกว่า 7,388 ล้านบาท
.
วันนี้ (29 เม.ย. 67) ที่ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่  นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดเชียงใหม่และการประชุมคณะกรรมจังหวัดเชียงใหม่ ประจำเดือน เมษายน 2567 โดยมี นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ และ นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ส่วนราชการ นายอำเภอ และหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมประชุม
.
 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในที่ประชุมว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีภารกิจครอบคลุมหลายด้าน และเป็นที่เฝ้าจับตามองจากหลายฝ่าย  การดำเนินงานแต่ละงานต้องอาศัยการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานส่วนกลางหรือหน่วยงานภูมิภาค เมื่อมาอยู่ร่วมกันแล้วทุกหน่วยงานจะทำงานร่วมกันในฐานะทีมเชียงใหม่
.
สำหรับประเด็นสำคัญที่มีการพูดคุยในที่ประชุมครั้งนี้ คือ การแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่  ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น  เพื่อให้จังหวัดเชียงใหม่นำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เพื่อลดฝุ่นละออง PM2.5  ซึ่งได้กระจายให้กับหน่วยงานต่างๆ ตามที่ได้ยื่นเสนอโครงการมากับทางจังหวัดแล้ว ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นย้ำให้ใช้งบประมาณที่ได้รับให้เป็นประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุดในช่วงระยะเวลาที่เหลือ ภายใต้ความโปร่งใสและตรงไปตรงมา  และแม้ว่าในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้จะเป็นช่วงขาลงของสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ตามสถิติของแต่ละปี  แต่ก็ยังไม่สามารถวางใจได้ และขอให้ทุกฝ่ายยังคงคุมเข้มในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
.
ขณะเดียวกันในที่ประชุมยังได้มีการสรุปภาพรวมเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือ งานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ 2567 ในช่วงวันที่ 12-16 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา  โดยพบว่า มียอดเงินสะพัดในช่วงดังกล่าวกว่า 7,388 ล้านบาท  แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่มาจากประชาชนในจังหวัดกว่า 5,990 ล้านบาท และจากนักท่องเที่ยวกว่า 1,398 ล้านบาท  จากยอดนักท่องเที่ยว 108,395 คน  ทั้งที่เป็นค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าบริการท่องเที่ยว ค่าพาหนะ ค่าซื้อสินค้า และกิจกรรมต่างๆ  ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปี 2566